Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะรับการยื่นคำร้องโดยตรงกับสถานกงสุลหรือไม่?

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะรับการยื่นคำร้องโดยตรงกับสถานกงสุลหรือไม่?

Translation of the above video, for original transcript please see: US Visa Application Embassy Bangkok.

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย

เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้ติดต่อสถานทูตเกี่ยวกับคำร้องที่ได้ยื่นไว้และผมได้รับคำตอบที่เป็นการประกาศอัตโนมัติจาก USCIS ความดังต่อไปนี้ "ขอแจ้งให้ทราบว่าสำนักงาน USCIS จะปิดทำการอย่างถาวรในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่วันสุดท้ายที่จะรับยื่นคำร้องและเปิดทำการต่อสาธารณชนคือวันที่ 18 ตุลาคม 2562 หลังจากวันที่ 18 ตุลาคม ทางสำนักงานจะตอบอีเมล์เฉพาะคำถามที่เกี่ยวข้องกับคำร้องที่ยังติดค้างอยู่ที่สำนักงาน USCIS หลังจาก 18 ตุลาคมนี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบริการบางประการที่สำนักงาน USCIS เคยให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูผังด้านล่าง"

ในผังได้เขียนว่าคำร้อง/แบบฟอร์ม I-130: คำร้องสำหรับญาติต่างด้าว

กรุณายื่นคำร้องทางไปรษณีย์ได้กับ lock box ของ USCIS ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์เกี่ยวกับ I-130.

กล่าวต่อไป "USCIS อาจมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับคำร้องที่ยื่นให้กับสถานเอกอัครราชทูตหรือกงสุลเฉพาะในสถานการณ์ที่จำกัด เพื่อที่จะขออนุญาตการยื่นคำร้อง I-130 กับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย โปรดหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ของสถานเอกอัครราชทูต”  ในความเข้าใจของผมสถานการณ์จำกัด หมายถึงสถานการณ์ที่จำกัดจริงๆ และการที่จะยื่นคำร้องโดยตรงกับสถานกงสุล (Direct Consular Filing) จะกระทำได้ต่อเมื่อมีความเร่งด่วนซึ่งอาจจะเกี่ยวกับชีวิตหรือกรณีฉุกเฉินเท่านั้น.

ในตารางได้เขียนว่าคำร้องสำหรับญาติต่างด้าวสามารถยื่นคำร้องทางไปรษณีย์ได้กับ lock box ของ USCIS ซึ่งจะมีข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ I-130.

ข้อมูลที่กล่าวข้างต้นนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากการปฏิบัติที่ทุกคนเคยชิน เพราะแต่ก่อน ในประเทศไทยมีสำนักงาน USCIS ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นข้อดีอย่างยิ่งใหญ่กับชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเพราะสามารถที่จะยื่นคำร้อง I-130 สำหรับคู่สมรสคนไทย (หรือแม้แต่เป็นคู่สมรสจากประเทศอื่นก็ตาม ก็สามารถที่จะยื่นที่นี่ได้ถ้าพลเมืองอเมริกันผู้นั้นอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง) ดังนั้นในอดีตการยื่นคำร้อง I-130 ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อเทียบกับหลายเดือนหรือบางครั้งอาจจะนานถึง 1 ปีครึ่ง เพราะคำร้องในประเทศไทยจะมีปริมาณที่น้อยกว่าและปัญหาเรื่องการส่งเอกสารจะติดขัดน้อยกว่าเนื่องจากระยะทางจะต่างกัน ถ้ายื่นในสำนักงาน USCIS ในกรุงเทพฯ ผู้ยื่น สามารถยื่นที่สถานเอกอัครราชทูต และในวันรับวีซ่า สามารถเดินข้ามถนนเพื่อไปรับที่สถานกงสุลได้ ซึ่งเป็นระยะทางที่ใกล้มาก แต่หากยื่นไปที่ lock box ใน Dallas เอกสารจะต้องถูกส่งต่อไปที่ศูนย์วีซ่าแห่งชาติ แล้วจึงถูกส่งกลับมายังสถานเอกอัครราชทูตหรือกงสุลที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ

ดังนั้น สรุปได้ว่า คำร้อง I-130 ที่ยื่นในประเทศไทยจะเป็นข้อดีกับพลเมืองอเมริกันที่มีคู่สมรสที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งข้อดีอันนั้นได้จบลงแล้วเพราะ USCIS ได้ปิดสำนักงานและผมคิดว่าสถานทูตคงไม่รับดำเนินเรื่องเหล่านี้ในระดับเดียวกันกับสำนักงาน USCIS เพราะตามหลักแล้ว ไม่ได้เป็นหน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่กงสุล กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ โดย USCIS จะต้องเป็นผู้พิจารณาคำร้องก่อนที่จะนำส่งกระทรวงการต่างประเทศ ดังนั้นถ้าหากไม่ใช่กรณีฉุกเฉินหรือเร่งด่วนอื่น คาดว่าการที่จะยื่นคำร้องที่สถานเอกอัครราชทูตโดยการใช้การยื่นผ่านสถานกงสุลโดยตรงคงไม่เกิดขึ้นในปริมาณเดียวกันกับที่ USCIS เคยทำงานในประเทศไทย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดอ่านที่วีซ่า CR1