Please see English language transcript at: Request for Evidence (RFE).

วีดีโอฉบับนี้จะกล่าวถึงเรื่อง RFE หรือเรียกชื่อเต็มคือการขอหลักฐานเพิ่มเติม (Request for Evidence) ซึ่งเป็นการขอเอกสารโดยสำนักตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) ภายใต้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

ในการยื่นคำร้องเกี่ยวกับการขอย้ายเข้าไปอยู่สหรัฐฯ หน่วยงานที่ให้บริการด้านนี้จะตรวจสอบคำร้องทุกชนิดก่อนที่จะอนุมัติและในบางกรณีหน่วยงานนั้นอาจเห็นว่าเอกสารหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอต่อ

การที่จะพิจารณาได้อย่างรอบคอบ ดังนั้นหน่วยงานนั้นจะออกหมายขอหลักฐานเพิ่มเติม (RFE)  หลักฐานเพิ่มเติมในที่นี้อาจเป็นเพียงเอกสารเล็กน้อย เช่นถ้าเป็นวีซ่าครอบครัวอาจจะขอเอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสามีภรรยาหรือคู่หมั้นทั้งสอง ถ้าเป็นวีซ่าธุรกิจหรือการลงทุนอาจเป็นเอกสารเกี่ยวกับการลงทุนในสหรัฐฯ หรือที่มาของเงินทุนที่จะนำไปลงทุนในสหรัฐฯ เป็นต้น ในประสบการณ์ของผม การที่ผู้ยื่นคำร้องได้รับ RFE อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ในมุมมองของทนาย จะมองว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แม้จะไม่เกิดขึ้นบ่อยก็ตาม

RFE คือหมายการขอเอกสารเพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งในหมายจะระบุว่าต้องการเอกสารชนิดใดบ้าง ผู้ยื่นคำร้องจำเป็นต้องจัดเตรียมเอกสารเหล่านั้นให้สำนักตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และอนุมัติเรื่อง จะส่งคำร้องไปที่ศูนย์วีซ่าแห่งชาติ

ขออธิบายเพิ่มเติมว่าทางสำนักงานจะปฏิบัติต่อทุกคำร้องด้วยความระมัดระวังอย่างสูงเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงต่อการที่ลูกค้าจะต้องรับหมาย RFE แต่อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้เสมอ  ในบางกรณีเอกสารอาจตกหล่นแม้ภายในสำนักตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ ของสหรัฐฯ (USCIS) เองก็ตาม หรือในบางกรณี เจ้าหน้าที่อาจคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องได้ เอกสารเหล่านั้นมาเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามถ้าได้รับ RFE ไม่ต้องตื่นตระหนก เพียงแต่ดูว่าทางสำนักตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS) ต้องการเอกสารอะไร แล้วจัดเตรียมตามที่ร้องขอมา หากสามารถส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ร้องขอได้เร็วเท่าใด การพิจารณาอนุมัติวีซ่าก็จะใช้เวลาน้อยลงเท่านั้น 

สิ่งที่ควรทราบคือ RFE จะมีลักษณะคล้ายกับหมาย 221(g) ซึ่งหมาย 221(g) นี้จะออกโดยเจ้าหน้าที่กงสุลภายใต้การกำกับดูแลจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่บางครั้งอาจจะออกโดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯของประเทศนั้นๆ อย่างเช่นในกรณีของประเทศไทยเป็นต้น และด้วยเหตุที่หมาย 221(g) ไม่ได้ออกโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ดังนั้น จึงแตกต่างจาก RFE ในแง่ของการบริหาร แม้ว่าอาจจะขอข้อมูลที่คล้ายกันก็ตาม   ซึ่งผู้ยื่นคำร้องมีหน้าที่เพียงจัดเตรียมเอกสารตามที่ขอมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวต่อผู้ยื่นคำร้อง และหากท่านที่มีความสนใจในรายละเอียดของหมาย 221(g) สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก วีดีโอในเว็บเพจของเรา