For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-3-visas-thailand-not-done/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-3 ที่ทำในประเทศไทยและตามหัวข้อจะคุยเรื่องการ "เข้าได้แต่ยังไม่จบ" ซึ่งวีซ่าประเภทนี้เป็นวีซ่าที่แปลกเนื่องจากได้ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้ Life Act ในยุคของประธานาธิบดีClinton ซึ่งได้สร้างขึ้นมาเพราะกระบวนการวีซ่าคู่สมรสในสมัยนั้นช้ามากและวีซ่าคู่หมั้นดำเนินการเร็วกว่าจึงออกวีซ่าประเภทใหม่คือ K-3 ซึ่งเป็นวีซ่าที่เป็นวีซ่าคู่สมรสที่ออกในกลุ่มของวีซ่าประเภท K

ในความเห็นของผม วีซ่าประเภท K-3 มีขีดจำกัดเพราะบางครั้งศูนย์วีซ่าแห่งชาติจะปิดคำร้องลงเนื่องจากมีการอนุมัติวีซ่าคู่สมรส ซึ่งในความคิดของผม ศูนย์วีซ่าแห่งชาติอาจจะมีการเจรจากับ USCIS ว่าคำร้องคู่สมรสผ่านกระบวนการได้แล้ว เราจะได้ปิดคำร้อง K-3 ลง จึงมองว่าวีซ่า K-3 เป็นวีซ่าที่ไม่มีความจำเป็นเพราะในเวลานี้กระบวนการที่ผ่าน USCIS จะเร็วกว่าในสมัยก่อนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วีซ่า K-3

โดยสรุป วีซา K-3 อาจจะมีการใช้อยู่แต่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เมื่อเดินทางไปถึงสหรัฐฯด้วยวีซ่า K-3 คุณเดินทางไปถึงก็จริง แต่ขั้นตอนยังไม่เรียบร้อยเพราะยังเป็นสถานะชั่วคราวอยู่ซึ่งยังต้องทำการปรับสถานะเพื่อได้รับกรีนการ์ด ในความเห็นของผม การที่ต้องปรับสถานะนี้จะลดความน่าสนใจของวีซ่าประเภทนี้ ถ้าเทียบกับวีซ่าคู่สมรส แต่ในความเป็นจริง วีซ่าคู่สมรสอาจจะใช้เวลานานกว่าแต่เมื่อไปถึงสหรัฐฯคุณจะได้รับสถานะทันทีซึ่งถ้าเทียบกับวีซ่า K-1 อาจจะเร็วกว่าและไม่มีประเด็นเรื่องการที่คำร้องถูกปิด เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่ได้ทำการสมรส ในความเห็นของผม ผมว่าน่าจะวิเคราะห์ข้อแตกต่างระหว่างวีซ่า K-1 และวีซ่าคู่สมรสมากกว่า

เพราะฉะนั้น โดยสรุปวีซ่า K-1 จะเร็ว แต่วีซ่า K-3 ไม่ได้เร็วกว่ามาก และอาจจะมีการปิดคำร้องโดยศูนย์วีซ่าแห่งชาติ นอกจากนี้ จะยังไม่ได้รับ Green Card เมื่อเดินทางไปถึงจึงเป็นวีซ่าเดินทางที่อาจจะไม่ได้ประโยชน์มากที่สุดและเมื่อไปถึงสหรัฐฯ ยังต้องมีขั้นตอนอีกมากมายที่คุณจะไม่ต้องเจอถ้าหากคุณใช้วีซ่าคู่สมรสเพื่อเดินทาง.