Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawการยื่นทำวีซ่าคู่สมรส หลังจากได้รับการปฏิเสธวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐฯ

การยื่นทำวีซ่าคู่สมรส หลังจากได้รับการปฏิเสธวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐฯ

For the English Transcript of the following video please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/k-3-cr-1-and-ir-1-visa-application-after-tourist-visa-denial/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการถูกปฏิเสธการขอทำวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐฯ และยื่นขอทำวีซ่าประเภทคู่สมรสแทนในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นวีซ่า K-3, CR-1 หรือ IR-1 เราจะทำวีดีโอเรื่องนี้จากมุมมองของคำร้องที่ยื่นในกรุงเทพฯ ประเทศไทย แต่ผมก็หวังว่าข้อมูลในวิดีโอนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้ที่กำลังมองประเด็นนี้ในมุมมองระดับสากลด้วย

เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไร? มันเป็นความจริงว่าวีซ่านักท่องเที่ยวถูกปฏิเสธบ่อยครั้งมากขึ้น และจากประสบการณ์ของผม มักจะมีสาเหตุมาจากมาตรา 214B ของกฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองและสัญชาติ โดยเฉพาะเมื่อมีคู่สมรสของพลเมืองอเมริกันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า อัตราการปฏิเสธวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐฯก็จะสูงขึ้นพอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่จะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าวีซ่านักท่องเที่ยวของคู่สมรสของพลเมืองอเมริกันจะถูกปฏิเสธ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป? ทำได้ 2 อย่าง คือจะมี 2 อย่างที่ควรจะได้รับจากวีดีโอเรื่องนี้ สิ่งแรกคือคุณสมรสแล้วหรือยัง? ถ้าหากยังไม่ได้สมรส และผมก็หวังด้วยว่าผู้ที่ยังไม่ได้ยื่นขอทำวีซ่าอะไรเลยจะได้ชมวีดีโอเรื่องนี้ก่อน และถ้าหากยังไม่ได้ยื่นคำร้อง แนะนำว่าควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ซึ่งจะน่าทำมากถ้าหากสมรสแล้วแต่ก็ใช้ได้ทั้ง 2 สถานการณ์ ไม่ว่าจะสมรสแล้วหรือยังไม่ได้สมรส แต่ในกรณีที่ยังไม่ได้สมรสจะยิ่งสำคัญ ถ้าหากคุณยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กำลังมองหาทางเลือกในการเข้าเมืองก็เป็นความคิดที่ดีที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอข้อมูลเชิงลึกก่อนการพืจารณาตัดสินใจ สำหรับผู้ที่สมรสแล้ว มันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายว่าภายใต้มาตรา 214B ของกฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองและสัญชาติ ความน่าจะเป็นที่คุณจะถูกปฏิเสธวีซ่ามีอยู่สูงพอสมควร เนื่องจากหลักการวิเคราะห์แบบ "ความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับความผูกพันแบบหลวมๆ" ถูกกำหนดให้นำมาใช้ในการพิจารณาภายใต้กฎหมายฉบับนี้ และการที่คุณสมรสกับพลเมืองอเมริกันจะเป็นเหตุลดทอนความน่าเชื่อถือว่าคุณมีความผูกพันแบบหลวมๆกับสหรัฐฯ เพราะฉะนั้นคุณอาจจะเหลือทางเลือกเพียง วีซ่าประเภท CR-1 หรือ IR-1 เท่านั้น

คำถามต่อไปคือ ควรที่จะเลือกวีซ่า K-3 หรือไม่? และสำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ วีซ่า K-3 ได้ถูกบัญญัติขึ้นภายใต้กฎหมาย Life Act ในสมัย Clinton ซึ่งในสมัยนั้น กระบวนการเข้าเมืองจะแตกต่างกับสมัยนี้มาก และในสมัยนี้ วีซ่า K-3 ส่วนใหญ่จะถูกปิดเรื่องลง เพราะฉะนั้นทางเลือกจะเหลือแค่วีซ่านักท่องเที่ยวหรือวีซ่าถาวร เมื่อถึงจุดนั้น คุณจำเป็นต้องพิจารณาว่าคุณต้องการทำอะไร? เป้าหมายหลักของคุณในการทำวีซ่าคืออะไร? คุณต้องการให้คู่สมรสของคุณอาศัยอยู่กับคุณในสหรัฐฯหรือไม่? คุณจะใช้ชีวิตในสหรัฐฯเป็นหลัก หรือจริงๆแล้วคุณเพียงต้องการแค่วีซ่านักท่องเที่ยว? มันขึ้นอยู่กับคำตอบของคุณต่อคำถามเหล่านั้น ซึ่งแต่ละคำตอบก็จะให้ผลการวิเคาระห์ในแต่ละกรณีแตกต่างกันออกไป ก็อย่างที่บอกแหละครับว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่จะเห็นการขอวีซ่านักท่องเที่ยวถูกปฏิเสธ อันเนื่องมาจากการเป็นคู่สมรสของพลเมืองอเมริกัน