Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawคำร้องขอวีซ่าคู่สมรส ประเภท IR-1, CR-1, K-3 จากประเทศไทย: ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ

คำร้องขอวีซ่าคู่สมรส ประเภท IR-1, CR-1, K-3 จากประเทศไทย: ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ

Please see English language transcript at: Marriage visa medical exam.

วิดีโอฉบับนี้กล่าวถึงการเรื่องการตรวจสุขภาพของวีซ่า K-3, CR-1 และ  IR-1ซึ่งเป็นวีซ่า 3 ประเภทสำหรับชาวต่างชาติที่แต่งงานกับพลเมืองสหรัฐ ฯ และเราพบกรณีเช่นนี้บ่อยมากในการยื่นคำร้องผ่านสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย 

ข้อกำหนดของการตรวจสุขภาพ: (มีวีดีโออื่นในช่องรับชมนี้ที่พูดเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพในกรณีของวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น)โดยเฉพาะ  ซึ่งแม้เนื้อหาจะคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างอีกเล็กน้อยซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่ไม่สำคัญมากนัก ผู้ใดสนใจในรายละเอียดเรื่องการตรวจสุขภาพของวีซ่าคู่หมั้นขอแนะนำให้ชมวิดีโอนั้น)  

ความเป็นจริงสำหรับวีซ่าของคู่สมรสก็คือ ถึงแม้จะทำการสมรสกับพลเมืองสหรัฐฯแล้วก็ตาม แต่เมื่อยื่นคำร้องขอทำวีซ่า คู่สมรสผู้นั้นยังจำเป็นที่จะต้องผ่านการตรวจสุขภาพเพื่อพิสูจน์ว่ามีสุขภาพดีเพียงพอที่จะเดินทางไปสหรัฐฯหรือไม่ มีหลายคนเข้าใจว่าสามารถที่จะไปตรวจที่คลินิกปากซอย หรือโรงพยาบาลไหนก็ได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ต้องตรวจสุขภาพโดยแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยสถานทูตเท่านั้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม “รหัสตามกฎหมาย”ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเฉพาะสำหรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กงสุลที่มีหน้าที่พิจารณาการออกวีซ่าประเภทนี้  ดังนั้น การตรวจสุขภาพจึงสามารถทำได้โดยแพทย์เหล่านี้เท่านั้น ซึ่งจะมีทั้งในกรุงเทพฯและเชียงใหม่ตามสถานที่ที่ระบุไว้  และถ้ายื่นวีซ่าผ่านบริษัทจะส่งพนักงานไปให้บริการในวันที่ไปตรวจสุขภาพ และให้ความช่วยเหลือในการจัดเตรียมเอกสารที่จะต้องยื่นให้สถานทูตด้วย

การตรวจสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญพอสมควรเพราะในบางครั้งผู้ยื่นคำร้องอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสหรัฐฯ ถ้าปรากฏผลว่าสุขภาพของผู้ยื่นคำร้องจะเป็นเหตุคุกคามต่อความปลอดภัยของสาธารณชน  และจะปฏิเสธการอนุมัติวีซ่าจนกว่าความเสี่ยงนั้นจะผ่านไป ในอดีตการติดเชื้อ HIV เคยส่งผลให้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าประเทศ แต่ในปัจจุบันเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญมากนัก อย่างไรก็ตามปัญหาของวัณโรคหรือการที่เคยติดเชื้อวัณโรคอาจเป็นเหตุผลที่อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศแม้จะไม่เป็นพาหะแต่อาจต้องมีการตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดซึ่งจะทำให้กระบวนการช้าลงได้มาก

สิ่งที่สรุปได้จากวิดีโอนี้คือ การตรวจสุขภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และที่มักจะเข้าใจผิดกันก็คือ ต้องไปทำล่วงหน้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถที่จะทำหลังจากการยื่นคำร้องได้  

การยื่นเรื่องขอวีซ่าเป็นขั้นตอนย่อยในกระบวนการทั้งหมด พึงระลึกว่าสิ่งที่ต้องทำคือ ยื่นคำร้องที่สถานทูต และไปตรวจสุขภาพเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ดูประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ยื่น ซึ่งการพิจารณาอนุมัติวีซ่าจะใช้เวลามากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับประวัติสุขภาพและ สถานการณ์แวดล้อมอื่นๆของผู้ยื่นแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ