For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/how-long-do-k-1-visa-interviews-last/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) และคำถามที่ผมได้รับบ่อยครั้งคือ “การสัมภาษณ์วีซ่าใช้เวลานานขนาดไหน” และคำตอบสั้นๆคือ "แล้วแต่กรณี"

ผมจะขออ้างอิงบทความชิ้นหนึ่งที่อ่านพบเมื่อไม่นานมานี้และเห็นว่าน่าสนใจ แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า แต่ละคำร้องจะมีความแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่แล้วประมาณ 80% ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนปกติ แต่จะมีอีก 20% ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เท่าที่ผมทำงานกับลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาพบว่าคำร้องประมาณ 80% จะเป็นคำร้องที่เข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการตามปกติ สำหรับอีก 20% ที่เหลือนั้น บางส่วนสามารถตีตราได้เลยว่า “ไม่ปกติ” ตั้งแต่แรก และบางส่วน คำร้องอาจจะดูปกติเหมือนคำร้องทั่วๆไป แต่พอเข้าสู่กระบวนการแล้ว อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง เช่น ในขั้นตอนสัมภาษณ์ คุณอาจไปเจอเจ้าหน้าที่ที่ต้องการที่จะขอรายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติม หรือเจ้าหน้าที่อาจจะต้องการความเห็นเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยจากหน่วยป้องกันการฉ้อโกงเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย หรืออาจจะต้องทำการสัมภาษณ์แบบ Stokes Interview อีกรอบ บ่อยครั้งที่การพิจารณาคำร้องเป็นไปด้วยดี แต่ก็ไม่เสมอไป บางครั้งผมก็บอกลูกค้าว่า การหาทนายฝ่ายการเข้าเมืองมาช่วยดำเนินการขอวีซ่าให้นั้น มันอาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นถ้าคุณอยู่ในส่วนของ 80% แต่ถ้าคุณหลุดไปอยู่ในกลุ่ม 20% ล่ะก็ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นทีเดียว  

มีบทความในนิตยสาร Foreign Policy, ซึ่งปรากฏใน foreignpolicy.com, หัวข้อว่า: หน่วยออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งบทความนี้เป็นบทความที่น่าอ่านและผมจะขอยกข้อความมาส่วนหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า: "มันเป็นระบบการทำงานที่เป็นไปอย่างเร่งรีบ การสัมภาษณ์ผู้ขอวีซ่า ตามปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีหรือน้อยกว่า เป็นการสัมภาษณ์ผ่านกระจกกันกระสุน และบ่อยครั้งที่อาจจะใช้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ" ข้อความนี้อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด บางครั้งอาจเป็นเช่นนั้นแต่บางครั้งก็ไม่ใช่ โดยเฉพาะวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) มันจะมีเรื่องความต้องการความมั่นใจของเจ้าหน้าที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริงหรือไม่เข้ามาด้วย ดังนั้นประเด็นเรื่องความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนไทยอาจจะไม่สามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วในการสัมภาษณ์วีซ่า K-1   

โดยสรุป ก็จะมีทั้งคำร้องที่สามารถดำเนินการไปตามปกติ และคำร้องที่มีความซับซ้อน เมื่อเริ่มยื่นคำร้อง อาจจะมองไม่ออกว่าคำร้องนั้นจะผ่านตลอดหรือว่าจะมีปัญหา บางครั้งเราดูว่าเป็นคำร้องที่น่าจะราบรื่นและในที่สุดอาจจะมีปัญหาแทรกเข้ามาก็เป็นได้