Legal Services & Resources
Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.
Contact us: +66 2-266 3698
วีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) ตอน: การขยายเวลาของ I-129F
For the English transcript of this video please go to the following link:
วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) เฉพาะในบริบทที่กว้างกว่าปกติ โดยจะเกี่ยวกับผู้ที่ยื่นคำร้องวีซ่าประเภทนี้ผ่านสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯ
จุดประสงค์ของวิดีโอม้วนนี้ก็คือ ผมได้ทำวีดีโอไว้หลายม้วนเมื่อหลายปีก่อน เกี่ยวกับประเด็นของการมีผลบังคับใช้ของคำร้อง และการอนุมัติใหม่ กล่าวคือเมื่อยื่นคำร้องขอวีซ่า K-1 ให้กับคู่หมั้น คุณจะต้องได้รับอนุมัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (USCIS)เสียก่อน และเมื่อคำร้องของคุณได้รับอนุมัติ การอนุมัตินั้นจะมีผลบังคับใช้ภายในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ตอนนี้ผู้ยื่นคำร้องทั้งหลายต่างวิตกกังวลเป็นอันมากโดยเฉพาะในช่วงของ COVID เพราะว่าวันหมดอายุของคำร้องกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่การดำเนิการตามขั้นตอนต่างๆก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะในส่วนของ “งานหลังบ้าน” ซึ่งเป็นระบบจัดการฐานข้อมูล ทั้งสถานทูตและสถานกงสุลไม่สามารถที่จะผ่านขั้นตอนของศูนย์วีซ่าแห่งชาติ (NVC) ได้อย่างรวดเร็วเหมือนเช่นเคย มีลูกค้าหลายคนที่ติดต่อเข้ามาและถามผมว่า "คำร้องเขียนไว้ว่า จะหมดอายุในวันนั้นวันนี้ เราควรจะทำอย่างไร?'
กล่าวโดยสรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลที่สถานทูตและสถานกงสุลที่อยู่ในต่างประเทศ จะมีอำนาจที่จะต่ออายุคำร้องเหล่านั้นได้ถ้ามีเหตุผลที่ดีพอ ซึ่งก็มีการกระทำเช่นนั้นเป็นปกติอยู่แล้ว แม้แต่ในช่วงก่อน COVID ก็มีการทำเช่นนั้นด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้ง การดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆอาจจะใช้เวลานานกว่าที่กำหนดไว้ทั้งๆที่ยังไม่มีสถานการณ์ COVID และเมื่อมีสถานการณ์ COVID เข้ามาเกี่ยวข้อง กระบวนการก็จะยิ่งช้าลง สำหรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผมยังไม่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศจะใจร้ายและปล่อยให้คำร้องหมดอายุลงเฉยๆ ในประสบการณ์ของผม ซึ่งได้ยื่นคำร้องสำเร็จในช่วงหลัง COVID นี้ก็สามารถยืนยันได้ว่า เจ้าหน้าที่จะไม่นั่งดูดายแล้วปล่อยให้คำร้องหมดอายุไป พวกเขาจะอนุมัติและยืดวันหมดอายุของคำร้องออกไปเพื่อที่จะให้คำร้องสามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ต่อไป
สรุปว่าคุณควรต้องดำเนินการต่อไปตามปกติเพื่อให้คำร้องผ่านขั้นตอนต่างๆไปให้ได้ แต่ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน "การเร่งรีบและรอคอย" จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเข้าเมือง แต่ในเวลานี้ น่าจะเป็นการ "รอคอย" มากกว่าการ "เร่งรีบ"