Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration LawCould We Soon See the End of In-Person US Visa Interviews? Thai Translation

Could We Soon See the End of In-Person US Visa Interviews? Thai Translation

For the English version of the video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/could-we-soon-see-end-person-us-visa-interviews/

การสัมภาษณ์เพื่อทำวีซ่าไปสหรัฐฯแบบตัวต่อตัวใกล้จะสิ้นสุดหรือยัง?

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการสัมภาษณ์เพื่อทำวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของ COVID ตั้งแต่มีนาคมปี 2020 เป็นต้นมา ก่อให้เกิดเรื่องราวตามมาอีกมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำให้งานการเข้าเมืองทั้งระบบเกิดการคั่งค้าง

คำถามข้อหนึ่งที่เกิดขึ้นมาคือ "มีความเป็นไปได้ไหมว่าจะยกเลิกการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวในการทำวีซ่าโดยเปลี่ยนเป็นการสัมภาษณ์ผ่านช่องทาง Zoom?" ในความคิดของผม ผมคิดว่าในเวลาอันใกล้นี้คงยังไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งผมได้อ่านข้อมูลเรื่องนโยบายต่างประเทศในเว็บไซต์ชื่อว่า foreignpolicy.com, ในหัวข้อว่า อำนาจในการอนุมัติวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯอยู่ในขั้นวิกฤต ผมขอยกข้อความมาตรงๆเลย กล่าวคือ: "แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด แต่ทางฝ่ายกงสุลยังคงต้องทำการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวอยู่ ทั้งๆที่มีหลักฐานปรากฎน้อยมากว่าวิธีดังกล่าวจะให้ผลดีกว่าการสัมภาษณ์ผ่านอินเตอร์เน็ต การกำหนดให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ณ ต่างประเทศต้องทำการสัมภาษณ์ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ด้วยตนเองทุกรายนั้น เป็นการใช้แรงงานอย่างเข้มข้น สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก และในยุคดิจิทัลนี้ยังหาคำอธิบายไม่ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังไม่สอดคล้องกับการดำเนินการของประเทศคู่แข่งในธุรกิจการเดินทาง เช่นออสเตรเลีย แคนาดา และอีกหลายประเทศในยุโรป ที่ได้ยกเลิกวิธีการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวในการทำวีซ่าไปแล้วอีกด้วย" ผมมองว่าบทความนี้เป็นมุมมองที่น่าสนใจทีเดียวและนิตยสารฉบับนี้ชื่อว่า Foreign Policy ซึ่งผู้ที่ติดตามอ่านจำนวนมากต่างก็ทำงานอยู่ในขอบข่ายของนโยบายการต่างประเทศ และผมเข้าใจว่ามีหลายคนที่ทำหน้าที่เป็นกลไกของงานด้านนี้จะสนใจอ่าน

ผมว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะตอนนี้มีการถกเถียงกันแล้ว โดยเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องมีการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแง่ของประสิทธิผลที่จะได้รับ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่คุณสามารถจะกล่าวอ้างประเด็นความกังวลในเรื่องสุขภาพได้ แต่ถ้าถามว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้หรือไม่ ผมก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้จะไม่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง  และภายใต้การบริหารงานของฝ่ายบริหารชุดใหม่นี้ ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะเขาก็ต้องหาอะไรที่จะสร้างชื่อให้ชุดบริหารนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งยังมีเวลาอีกนานในการทำงาน ในระหว่างนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหลักๆบางอย่าง เช่นการยกเลิกหรือการลดขั้นตอนต่างๆลงบ้าง จริงๆแล้วผมมองว่าน่าจะมีการผสมผสานกันเกิดขึ้น เช่น ถ้าเป็น วีซ่าถาวร หรือวีซ่าแบบแสดงเจตนาคู่ เช่นวีซ่าประเภทคู่หมั้น K-1, CR-1, IR-1 และวีซ่าประเภทคู่สมรส K-3 อาจจะมีการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว แต่สำหรับวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยวอาจจะมีการสัมภาษณ์แบบไม่ใช่ตัวต่อตัว ซึ่งเมื่อดูจากปริมาณคำร้องขอวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยวที่ยังค้างอยู่ที่สถานทูตอีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้แล้ว ผมเชื่อว่าเขาจะต้องทำแบบนั้น เพราะไม่มีเหตุผลใดมากไปกว่า การที่จะสามารถ สะสางงานที่คั่งค้างได้อย่างมีประสิทธิผลและรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะทำได้