Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawการตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ: การปฏิเสธวีซ่าด้วย 221g ในปี 2021

การตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ: การปฏิเสธวีซ่าด้วย 221g ในปี 2021

For the English transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/visa-immigration-law/us-immigration-law/american-immigration-221g-visa-refusals-2021/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการปฏิเสธวีซ่าด้วย 221g ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านการสัมภาษณ์ไปแล้ว สำหรับวีดีโอม้วนนี้จะกล่าวเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวกับสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพฯเท่านั้น แต่เราก็ยังมีลูกค้าจากประเทศลาว ประเทศกัมพูชา ประเทศเวียดนามเป็นบางครั้งและที่สิงคโปร์ด้วย แต่ที่มาเลเซียมีลูกค้าไม่มากซึ่งการปฏิเสธวีซ่าด้วย 221g นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เหตุผลที่เราทำวิดีโอในบริบทของประเทศไทย ก็เพราะลูกค้าของเราส่วนใหญ่อยู่ที่นี่

สิ่งแรกคือจะอธิบายความหมายของ 221g. 221g คือการปฏิเสธที่จะออกวีซ่า คำว่า "ปฏิเสธ" กับคำว่า "ไม่อนุมัติ" เป็นคำศัพท์เฉพาะทางซึ่งบางทีอาจจะทำให้เข้าใจผิดได้ โดยพื้นฐานแล้ว คำว่า“การปฏิเสธวีซ่า” โดย 221g มักจะใช้เมื่อเจ้าหน้าที่จะ "ขอดูเอกสารเพิ่มเติมและจะปฏิเสธวีซ่าจนกว่าจะได้รับเอกสารชิ้นนั้น" สำหรับคำว่า “การไม่อนุมัติวีซ่า” จะใช้ในกรณีที่มีเหตุทางกฎหมายที่จะไม่อนุญาตให้บุคคลนั้นเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ออกวีซ่าให้ อาจจะมีการขอรับการยกเว้นซึ่งเรียกว่าการยกเว้นตาม I-601 ซึ่งจะใช้ในกรณีของ “การไม่อนุมัติวีซ่า” อาจจะเนื่องจาก เข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่ผิดศีลธรรม หรือการอยู่ในสหรัฐฯเกินกำหนดวีซ่าเป็นต้น ซึ่งจะสามารถขอรับการยกเว้นได้ แต่จะได้รับการยกเว้นหรือเปล่านั้นเป็นเรื่องเฉพาะกรณีไป ดังนั้นคำว่า "ปฏิเสธ" กับคำว่า "ไม่อนุมัติ" จึงมีความหมายที่ต่างกันเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น ตอนคุณไปเข้ารับการสัมภาษณ์ แต่ลืมเอาพาสปอร์ตตัวจริงมาด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูตก็จะบอกคุณว่า “เอาล่ะ ตอนนี้เราจะออก 221g ให้คุณ เราจะปฏิเสธการออกวีซ่าให้คุณไว้ก่อน จนกว่าคุณจะนำหนังสือเดินทางตัวจริงมาเพื่อให้เราพิจารณา จากนั้นเราถึงจะตัดสินใจ" ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกือบทุกกรณีจะได้รับการอนุมัติและจะได้รับวีซ่าในที่สุด พูดโดยทั่วไปทางสถานทูตจะให้เวลาประมาณ 1 ปีสำหรับผู้ที่ได้รับ 221g ผมเข้าใจว่าในสหรัฐฯผู้คนจะรู้สึกหมดหวังเมื่อได้รับ 221g ทนายความในสหรัฐฯจะตกใจมากกว่าผม ผมทำงานกับสถานทูตที่นี่มานาน ดังนั้นมุมมองของผมและหลายอย่างที่เราทำที่นี่จะสวนทางกับที่ทนายในสหรัฐฯที่ทำงานตามหลักการพื้นฐานปกติ ในประเทศไทยเพียงแต่เราไปที่สถานทูตเพื่ออธิบายเหตุผลและนำเอกสารไปก็จะจบเรื่องซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับท้องที่ ที่เราทำงาน

กล่าวโดยสรุปคือ เราทำกรณี 221g กับสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯ ค่อนข้างบ่อยพอสมควร ซึ่งเราเพียงแต่นำเอกสารที่ทางสถานทูตต้องการไปให้เจ้าหน้าที่ แล้วเรื่องต่างๆก็จะดำเนินการต่อไป ในช่วงเวลานี้ ผมสังเกตุเห็นว่า ปริมาณของกรณี221g ได้ลดลงไปเยอะ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่คำร้องสามารถที่จะยื่นในระบบออนไลน์ได้แทนที่จะยื่นเป็นเอกสารกระดาษอันจะเป็นเหตุให้เกิดการร้องขอเอกสารตามมา  

นอกจากนี้ในปี 2020 ได้เกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้งานคั่งค้างมากจึงไม่มีการสัมภาษณ์ ซึ่งผมหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็ววัน แต่สำหรับระยะเวลาใกล้ๆนี้ ยังไม่เห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น การสัมภาษณ์ที่สถานทูตก็มีเพียงไม่กี่ราย และก็ยังไม่เกิดกรณี 221g ด้วย หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราจะรายงานความคืบหน้าให้คุณได้รับทราบต่อไป