Please see English language transcript at: K1 visa age difference.

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงวีซ่า K-1 (ประเภทคู่หมั้น) โดยเน้นเฉพาะในแง่ของความต่างของวัยระหว่างผู้ยื่นคำร้องกับผู้รับสิทธิประโยชน์

คำร้องวีซ่าส่วนใหญ่ที่ทำเป็นประจำ ผู้ยื่นฝ่ายชายมักเป็นพลเมืองอเมริกัน และคู่หมั้นจะเป็นผู้หญิงไทย (บางกรณีอาจเป็นชายทั้งคู่) และมีหลายครั้งที่อายุต่างกันมาก ผมจึงได้รับคำถามว่า “ความต่างระหว่างวัยจะเป็นอุปสรรคกับการขอวีซ่าหรือไม่?” และคำตอบก็คือ “ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละสถานการณ์”

สิ่งแรกที่ต้องการอธิบายคือเจ้าหน้าที่ ตม.ไม่ได้ให้ความสนใจอย่างเฉพาะเจาะจงในเรื่องของข้อดีหรือข้อเสียของคู่หมั้นที่มีวัยที่แตกต่างกัน เพราะตราบใดที่คู่หมั้นทั้งสองคนอยู่ในวัยที่สามารถจะสมรสได้ตามกฎหมายของประเทศที่แต่ละคนอาศัยอยู่ ก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ความต่างกันมากๆของอายุอาจกลายเป็นประเด็นที่สำคัญได้ ในแง่ของการพิรณาว่า การสมรสนั้นเป็นการสมรสที่แท้จริงหรือเป็นการสมรสปลอมเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการเข้าเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.จะมองว่าการสมรสปลอมเป็นคดีที่ร้ายแรง และพยายามป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้น (ผมเคยทำวีดีโออีกเรื่องในช่องรับฟังนี้เกี่ยวกับการสมรสปลอม ซึ่งชายชาวต่างชาติได้สมรสกับพลเมืองอเมริกันจนได้รับสัญชาติ ต่อมาได้หย่าร้างกับภรรยาชาวเมริกันและพาครอบครัวชาวต่างชาติเข้าสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่สืบได้ว่าได้สมรสปลอมเพื่อรับสิทธิประโยชน์ จนในที่สุด ได้ถูกเพิกถอนสัญชาติและถูกจำคุก)  ด้วยเหตุผลดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงอาจนำเอาประเด็นความแตกต่างกันมากของอายุระหว่างคู่หมั้นหรือคู่สมรส มาเป็นข้อวินิจฉัยเพื่อค้นหาว่าเป็นการสมรสปลอมหรือไม่ก็เป็นได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ “ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของสถานการณ์” จริงๆ

มีลูกค้าเคยถามว่า “เรามีอายุห่างกัน 10 ปี จะเป็นปัญหาหรือไม่?” ซึ่งตามปกติแล้ว ทางสำนักงานจะไม่มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ แต่จะพิจารณาที่สภาพแวดล้อมและรายละเอียดของแต่ละคู่ เป็นสำคัญ  เพื่อค้นหาประเด็นที่อาจเป็นปัญหาให้พบก่อนที่เจ้าหน้าที่ ตม.ผู้มีอำนาจตัดสินใจจะมองว่าเป็นการสมรสปลอม สรุปว่า ความแตกต่างระหว่างวัยของคู่หมั้นหรือคู่สมรสโดยตัวของมันเองไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการยื่นคำร้องขอวีซ่า K-1แต่อย่างใด  แต่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่คุณจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องได้  จึงขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายในเรื่องดังกล่าว เพื่อศึกษาประเด็นปัญหาและประเมินมาตรการต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับการยื่นคำร้องขอวีซ่าและหลีกเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการพิจารณาคำร้องทุกขั้นตอน