For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/should-thailand-follow-usa-withdrawing-who/

วีดีโอม้วนนี้ เหตุการณ์ที่ประธานาธิบดี Trump - ประธานาธิบดีผู้ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งกลับเข้ามาใหม่หมาดๆนี่เอง - ได้ถอนตัวออกจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ซึ่งผมมีความสุขมากกับข่าวนี้ ในฐานะที่เป็นคนอเมริกันผมต้องพูดว่า ไชโย และในฐานะที่เป็นคนไทยผมก็ต้องถามว่า เมื่อไหร่จะถึงตาเราบ้าง? เราจะหลุดจากองค์กรนี้เมื่อไหร่?

ว่าแต่ว่า ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความจาก 6abc.com, บทความชื่อว่า: Trump withdraws US from World Health Organization - Trump ได้นำสหรัฐฯถอนตัวออกจากองค์กรอนามัยโลก ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีDonald Trump ได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารให้สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากองค์กรอนามัยโลก ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสหประชาชาติที่ทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐและหน่วยงานอื่นๆเพื่อยกระดับสุขภาพของผู้คนและสังคมทั่วโลกดีขึ้นถึงวันที่ 19มกราคม องค์กรนี้มีสมาชิก 124ประเทศรวมถึงสหรัฐฯด้วย"

แต่ตอนนี้ก็ไม่ร่วมแล้วเพราะได้ถอนตัวออกไปแล้ว ผมหวังว่าเงินของ “ลุงแซม” - เพื่อนของผมบางคนเรียกว่า "Uncle Sugar"-คงจะถูกถอนออกมาด้วยเพราะฉะนั้น ผมคิดว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ และผมหวังว่าประเทศไทยจะได้ศึกษาพิจารณาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งด้วยเช่นกันผมมองไม่เห็นเลยว่าองค์กร WHO ได้ทำประโยชน์ให้ใครเลยนอกจากคนที่ได้รับเงินเดือนจากการทำงานในองค์กรนี้ เพราะถ้าจะพูดตรงๆ ทั้งหมดที่ผมเห็นพวกเขาทำในช่วงที่เรียกกันว่าการระบาดของโควิด ซึ่งหลายคนคงลืมนึกคือนายTedrosได้เปลี่ยนแปลงการให้คำจำกัดความของคำว่า “โรคระบาด”ตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อที่จะได้กระตุ้นให้นำกลไกต่างๆมาใช้ผลที่ได้รับก็คือบางสิ่งบางอย่างที่โง่เขลาที่สุดและมีราคาแพงมากที่สุดในเชิงเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เราสามารถพบได้ อาจจะในรอบร้อยปีเป็นอย่างน้อย - อย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่จุดเริ่มของของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำให้เราได้เห็นถึงความโง่เขลาระดับหายนะที่ทำให้ผู้คนเสียหายมากมายมหาศาล 

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะได้ศึกษาจากวิธีการเดินหมากของสหรัฐฯ และปฏิเสธ WHO เช่นกันรวมทั้งขับไล่บุคคลเหล่านี้ออกไปเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเจอกับสิ่งที่เราต้องเผชิญใน 5 ปีที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง