Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

[email protected]

ResourcesThailand Real Estate & Property LawJurisprudenceรัฐบาลไทยรู้เพียงแค่การสร้าง "ค่าธรรมเนียม" ใหม่ๆขึ้นมาหรือ?

รัฐบาลไทยรู้เพียงแค่การสร้าง "ค่าธรรมเนียม" ใหม่ๆขึ้นมาหรือ?

For the English transcript of this video, please go to the following link:

https://legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/jurisprudence/does-thai-government-only-know-how-create-fees/

วีดีโอเรื่องนี้จะพูดถึงเรื่อง รัฐบาลไทยรู้เพียงแค่การสร้าง "ค่าธรรมเนียม" ใหม่ๆขึ้นมาหรือ? ซึ่งวีดีโอนี้อาจจะออกแนวตลกเพราะตอนผมอ่าน ผมรู้สึกว่า "วันๆคุณนั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาลแล้วคิดขึ้นมาได้แค่นี้หรือ"

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้หลังจากที่ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, bangkokpost.com, บทความชื่อว่า: Bangkok motorists may face congestion fee ผู้ขับขี่ยานพาหนะในกรุงเทพมหานครอาจจะเจอค่าธรรมเนียมการจราจรติดขัด, อ่านได้ใน bangkokpost.com นะครับ ขอยกข้อความโดยตรงจากบทความดังนี้: "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปีเพื่อที่จะศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำ “ค่าธรรมเนียมการจราจรติดขัด” มาใช้กับผู้ขับขี่ยานพาหนะบนถนนสายที่มีการจราจรคับคั่งในกรุงเทพฯ ค่าธรรมเนียมนี้จะนำไปใส่ในกองทุนที่มีมูลค่า 2 แสนล้านบาท เพื่อซื้อสัมปทานคืนจากบริษัทเอกชนที่ได้ลงทุนในรถไฟฟ้าสายต่างๆ เมื่อระบบเหล่านี้กลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ รัฐบาลก็จะสามารถปรับค่าโดยสารให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมที่ทุกคนสามารถรับได้  

ครับ เมื่อไหร่ที่กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ สิ่งอัศจรรย์ทั้งหลายก็มักจะเกิดขึ้นทันที กล่าวต่อ: "นายสุริยะได้กล่าวในวันอังคารว่า ค่าธรรมเนียมการจราจรติดขัดจะเป็นวิธีการที่ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาในการที่จะปรับค่าโดยสารรถไฟไฟฟ้าเป็น 20 บาทตลอดสายในทุกเส้นทางการวิ่งบรรลุผล" ผมขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า ฟังดูไม่ค่อยจะเป็นระบบคอมมิวนิสต์เลยนะ!! ผมมองไม่ออกเลยว่าปัญหาจะเกิดอย่างไร แต่เราลองดึงเรื่องเกี่ยวกับกลไกการกำหนดราคา ออกจากตลาดเสียก่อน แล้วดูว่าจะเกิดผลลัพธ์กับทุกคนอย่างไร ในขณะเดียวกัน เรากำลังจะคิดค่าธรรมเนียมกับทุกคนที่ใช้รถ เพียงแค่เพราะเหตุว่าเขาเป็นผู้ใช้รถ! ผมว่ามันเป็นความโง่เง่าทั้งสิ้นเลย ผมต้องขอพูดตรงๆ เมื่อผมอ่านบทความนี้ ผมได้แต่นั่งคิดว่า "โอ้โห นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบมากตามที่ Ronald Reagan เคยกล่าวไว้ว่า "สิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณจะได้ยินเป็นภาษาอังกฤษคือ 'เรามาจากรัฐบาลและเรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ' สิ่งนี้ไม่ได้จะช่วยอะไรใครเลย และผมก็คงต้องสงสัยอยู่อีกแหละว่า มีความคิดของ World Economic Forum อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า อย่างน้อยที่สุด มันก็ดูเหมือนจะเป็นสังคมนิยมอยู่มากทีเดียว มันดูเหมือนคอมมิวนิสต์มากเลย มันเป็นการวาดวิมานบนอากาศที่ว่าเราจะลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็น 20 บาทตลอดสายให้กับทุกคน

นอกจากนี้ พวกคุณเข้าใจหรือเปล่าว่าอะไรคือเหตุผลที่บริษัทเอกชนเหล่านี้ถึงได้ลงทุนสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆเหล่านี้? ก็เพื่อที่จะได้เก็บค่าโดยสารหลังจากที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดว่าอาจจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับราคาที่สามารถรับได้ในการใช้รถไฟฟ้า ผมไม่แน่ใจเลยว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร แต่ผมก็ไม่เข้าใจในตรรกะที่ว่า "เอาล่ะ ค่าโดยสารรถไฟอาจจะแพงเกินไป เพราะฉะนั้นเราก็มาคิดภาษีให้เต็มที่กับทุกคนที่ขับรถ แล้วนำเงินก้อนนั้นมาซื้อรถไฟไฟฟ้ากลับคืนมาเป็นของรัฐ แลัวทุกคนก็จะได้จ่ายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย" มันเป็นการวาดวิมานในอากาศชัดๆ  หมายถึงเหมือนกับสิ่งที่รัฐบาลโซเวียตคิดขึ้นมาในสมัย 1986 ผมว่าความคิดมันจะคล้ายๆกัน  ผมจำไม่ได้เลยว่าเคยเห็นรัฐบาลชุดที่แล้วพูดจาแบบนี้ในช่วง10 ปีที่บริหารประเทศ และไม่ว่าคุณจะติหรือตำหนิรัฐบาลชุดนั้นอย่างไรก็ตาม – และผมเข้าใจด้วยว่ามีหลายอย่างที่ต้องตำหนิ แต่ผมไม่มีความทรงจำอยู่ในหัวเลยว่าเคยมีการพูดจาไร้สาระแบบว่า "ก็เพราะว่าคุณขับรถ เราถึงต้องเก็บภาษีจากคุณ" ผมไม่ทราบจริงๆว่าเขาจะไปหาความชอบธรรมมาจากไหน  เขาเพียงแต่พูดว่า เขามีเหตุผล แล้วจากนั้นก็จะนำเงินไปซื้อรถไฟไฟฟ้ากลับคืนมาจากกลุ่มบริษัทที่เป็นผู้สร้างรถไฟฟ้า และผมก็คิดว่าคงเป็นการบังคับซื้อด้วย - ผมก็รู้ว่าคนที่สร้างรถไฟหรือช่วยสร้าง - คือเข้าใจนะครับว่าเป็นการร่วมงานระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน - เป็นการนำเงินทุนไปลงแล้วสร้างขึ้นมา ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขามีความสุขจริงๆ ถ้าจะต้องขายมันทิ้งไป - แต่ผมแน่ใจว่าไม่ใช่ราคาตลาดอย่างแน่นอน - ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้กับผู้คนที่ใช้รถไฟ ขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่าความคิดเหล่านี้เป็นแบบสังคมนิยมจนเกือบจะเป็นคอมมิวนิสต์อยู่แล้ว ผมหวังว่าบรรดาผู้ที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้คงจะใจเย็นลงเกี่ยวกับความคิดเหล่านี้ในประเทศไทย