Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesThailand Real Estate & Property LawConveyancing and Property Transferจีนคือ "ตัวขับเคลื่อนหลัก" ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยจริงหรือ?

จีนคือ "ตัวขับเคลื่อนหลัก" ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยจริงหรือ?

For the English Transcript of this video please go to the following link:

https://www.legal.co.th/resources/thailand-real-estate-property-law/catalog/chinese-main-driver-thailands-property-market/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงคำถามที่ว่า จีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยจริงหรือไม่? เหตุผลที่ผมนึกถึงเรื่องนี้คือ เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ South China Morning Post,จาก scmp.com, มันเป็นความเข้าใจของผมมาจนถึงปีที่แล้วว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้มีมุมมองที่มีเป็นจุดยืนของตัวเอง แต่เมื่อปีที่แล้วความเห็นของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้กลับอยู่ในแนวทางเดียวกับรัฐบาลแผ่นดินใหญ่มากกว่าที่เคยเป็นในอดีต นั่นเป็นสิ่งที่ผมได้อ่านและได้ยินมา แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ผมมานึกถึงประเด็นนี้อีกครั้งเมื่อผมอ่านบทความนี้ จริงๆแล้วผมคิดว่าหนังสือพิมพ์ South China Morning Post เป็นหนังสือพิมพ์ที่ดีมาก และผมก็เชื่อเช่นนั้นมาตลอด ไม่ได้เปลี่ยนความคิดเลย  จนมาอ่านเจอบทความนี้ซึ่งก็ไม่ถึงกับประสาทแดกหรอก มันประมาณว่า "จีนจะเข้ามาย่ำยีทิศทางบางอย่างของประเทศไทยหรือ? จะเกิดขึ้นได้หรือไม่?” ในฐานะที่ผมเป็นพลเมืองไทยที่โอนสัญชาติมา ในแง่หนึ่งผมก็พอจะเข้าใจได้ถึงความกังวลที่เกิดขึ้น ผมชอบที่จะให้ประเทศไทยเป็นแบบที่เป็นอยู่ และไม่ต้องการให้ถูกย่ำยี และผมก็ไม่คิดว่าประเทศจีนจะพยายามทำเช่นนั้นกับประเทศไทยเพื่อตัวเอง.

ถ้าจะกล่าวถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็มีประเด็นที่น่าสนใจนำมาพิจารณา โดยจะขอยกข้อความมาโดยตรงจากบทความในหนังสือพิมพ์ South China Morning Post, scmp.com ในหัวข้อ: นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า การเปิดชายแดนของประเทศไทยอีกรอบหนึ่งเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อาจจะช่วยให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถจำหน่ายห้องชุดในกรุงเทพฯที่ยังขายไม่ออก และมีอีกจุดหนึ่งที่กล่าวว่า: “ชาวจีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับห้องชุดในกรุงเทพฯ ในช่วงก่อนโควิดระบาด“ เป็นคำกล่าวของผู้บริหารของบริษัท Knight Frank ซึ่งผมอยากให้ทุกคนได้ไปเช็คข้อความนี้โดยตรงอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ชาวจีนคือตัวขับเคลื่อนหลักจริงหรือ สำหรับผมคงพูดได้ว่า ในบรรดานักลงทุนต่างชาติ ชาวจีนนับว่ามีสัดส่วนอยู่ในจำนวนที่เป็นกอบเป็นกำทีเดียว แต่อย่าลืมว่าเป็นนักลงทุนต่างชาติในตลาดอสังหาของไทย ดังนั้นมุมมองนั้นจึงน่าจะบิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริงไปหน่อย เพราะประการแรก ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ และการถือครองกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดของชาวต่างชาติก็ถูกจำกัดให้สามารถถือครองได้ในสัดส่วนที่น้อยกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในอาคารชุดจำนวน 100 ยูนิต จะเป็นโควต้าสำหรับชาวต่างชาติ เพียง 49 ยูนิต ที่เหลืออีก 51 ยูนิต จะต้องถือครองโดยผู้ถือสัญชาติไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติห้องชุดที่ใช้บังคับ ฉะนั้นในเมื่อยังมีข้อจำกัดเหล่านี้อยู่ ผมจึงไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งที่น่ากังวลนักว่าพลเมืองจีนหรือชาติอื่นก็ตามจะแห่กันเข้ามากว้านซื้อทุกอย่าง และพลเมืองไทยทั้งหลายจะเป็นเหมือนคนแปลกหน้าในประเทศของตัวเอง ผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าผู้กำหนดนโยบายในประเทศไทยคงจะจับตาดูในเรื่องนี้ และก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะคอยติดตามดูว่า เมื่อมีการผ่อนคลายหลายๆอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนที่เกิดขึ้น เราจะเริ่มเห็นการฟื้นคืนชีพในภาคการท่องเที่ยวของจีนหรือไม่ หรือ อาจจะพูดได้ว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยจะสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนได้หรือไม่ เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์จะสามารถดึงดูดผู้ซื้อจากจีนให้เข้ามาสู่ตลาดอาคารชุดได้หรือไม่