For the English transcript of this video, please go to the following link: 

https://www.legal.co.th/resources/thailand-criminal-law/criminal-jurisprudence-thailand/youtubers-and-tiktokers-should-take-heed-case-thailand/

วีดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงพวกที่ชอบเล่น YouTube กับ TikTok เมื่ออยู่ในประเทศไทย โดยพื้นฐานแล้ว คุณรู้ว่านี่เป็นวิดีโอที่ผมเคยทำไว้แล้วจำนวนมาก โดยผมจะพูดเตือนไว้ว่า: "พึงเข้าใจไว้เสมอว่า การสร้าง content ค่อนข้างจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ในประเทศไทยและเช่นเดียวกับอีกหลายๆเรื่องที่กฎหมายมักจะยังตามไม่ทัน เพราะฉะนั้น เราจึงยังไม่เห็นว่าผลลัพธ์ หรือความหมายในเชิงปฏิบัติของนโยบายว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมันจะต้องมีวิวัฒนาการตามกาลเวลา

ผมคิดจะทำวีดีโอเรื่องนี้เพราะผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ khaosodenglish.com, หัวข้อเรื่องว่า: Thai Police counter alleged Chinese content attacking Thailand. ตำรวจไทยตอบโต้กับ content ของคนจีนที่กล่าวหาประเทศไทย ขอยกข้อความมาโดยตรงจากบทความดังนี้: "ตำรวจไทยได้ตอบโต้ต่อเอกชนชาวจีนที่สร้าง content ที่พรรณาวาดภาพประเทศไทยให้ดูเป็นประเทศที่อันตราย เหตุนี้เกิดหลังจากที่รัฐบาลไทยสรุปว่า content แบบนี้จะมีผลกระทบในทางลบกับนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวประเทศไทย" กล่าวต่อ: "ตำรวจได้เตือนว่าการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จอาจจะนำไปสู่ปฎิกริยาที่รุนแรงและไม่เอื้อประโยชน์ รวมทั้งการมีข้อจำกัดต่อบุคคลที่นำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง" กล่าวต่อ: "ฝ่ายกฎหมายให้ข้อมูลว่า" ก่อนที่ผมจะลงไปในรายละเอียดขอบอกว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ เป็นที่ปรากฎชัดเจนว่าผู้สร้าง content นี้เป็นผู้หญิงเชื้อสายจีน มาเที่ยวประเทศไทยและเดินท่อมๆอยู่ตามถนนพร้อมทั้งกล่าวว่า "สถานที่ที่ฉันอยู่นี่ดูเหมือนจะไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงเลย" ประมาณนี้ และในความเห็นของผม ผมคิดว่าการประเมินของเธอนั้นผิดพลาด อย่างที่ผมเคยกล่าวในวีดีโอม้วนอื่นๆแล้วว่า ประเทศไทยมีสถิติอัตราการก่ออาชญากรรมน้อยมาก 

แต่เหตุผลที่ผมทำวีดีโอเรื่องนี้คือสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้: "ฝ่ายกฎหมายได้แจ้งให้ผู้หญิงคนนั้นทราบว่ากิจกรรมที่เกิดรายได้ออนไลน์นั้น หรือการถ่ายทอดสดในประเทศไทยจะเป็นการละเมิดต่อข้อบังคับที่ห้ามชาวต่างชาติทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต" กล่าวต่อ: "ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะปฏิเสธ แต่ตำรวจก็กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และอาจรวมถึงการห้ามเข้าประเทศอีกด้วย" และบทความนี้ยังระบุด้วยว่า ผู้หญิงคนนี้อยู่ในประเทศไทยโดยการใช้ Thailand Privilege วีซ่า และอย่างที่ผมเคยพูดทุกครั้งคือ ผมขอแนะนำให้ผู้ที่กำลังรับชมวีดีโอเรื่องนี้ให้ไปอ่านบทความในหนังสือพิมพ์ข่าวสดเพราะเขาเขียนได้ดีมาก และให้รายละเอียดที่ดีด้วย สำหรับกรณีนี้ ปรากฎชัดเจนว่าหญิงคนนี้อยู่ในประเทศไทยโดยใช้ Thailand privilege วีซ่า แล้วก็ได้ถ่ายทำวีดีโอ พอตำรวจตรวจพบจึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีบนข้อหาว่าละเมิดใบอนุญาตทำงาน เนื่องจากผู้ที่อยู่ในประเทศไทยโดยการใช้วีซ่า Thailand Privilege หรือที่เรียกว่า Elite Visa ซึ่งเป็นวีซ่าที่ไม่อนุญาติให้ทำงาน ดังนั้นการกระทำเหล่านี้ แม้จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นออนไลน์ ก็ถือว่าเป็นการละเมิดต่อการอนุญาตทำงาน และผมสังเกตว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมพูดถึง You Tuber ทั้งหลาย สักประมาณ 6 เดือนที่แล้ว จะมีคนเข้ามารุมถล่มผมในคอมเม้นท์อย่างมาก แต่ผมก็ยังยืนยันตามสิ่งที่ผมพูด ในระยะยาว ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองของไทย เจ้าหน้าที่ไทย ตระหนักดีว่าระบบเศรษฐกิจออนไลน์มันทำงานยังไง รวมทั้งตระหนักถึงกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตทำงานด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำมาพิจารณาใช้ตามแต่กรณี กล่าวต่อ: "เจ้าหน้าที่ของไทยได้เตือนพวกชาวต่างชาติที่สร้าง content ว่าไม่ควรที่จะสร้าง content เชิงลบและไม่เป็นความจริง อันจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และเน้นย้ำว่า จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจังสำหรับการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และการสร้าง content เพียงเพื่อเพิ่มยอดการกดไลค์ในโซเชียลมีเดีย”

เพราะฉะนั้น ผมขอกล่าวอีกครั้งหนึ่งว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับใบอนุญาตทำงานในระดับหนึ่ง และในอีกระดับหนึ่ง มันยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยในบริบทของการท่องเที่ยวอีกด้วย ทั้งสองประเด็นนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยทุกฝ่ายรู้สึกเป็นห่วงกังวล เพราะฉะนั้น สำหรับใครที่จะมาประเทศไทยและเป็นคนที่ชอบสร้าง content มันก็เป็นความคิดที่ดี - คือถ้ามาประเทศไทยแล้วสร้าง content อะไรบางอย่าง เช่น การเป็นประเทศเสรีของไทย คุณก็สามารถทำได้ตามต้องการ แต่ถ้าหากคุณทำเพื่อที่จะหาเงิน หรือเป็นการประกอบอาชีพ คุณก็อาจจะเริ่มขยับเข้าไปสู่พื้นที่ของการละเมิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับการอนุญาตทำงาน และอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าผมจะมองในมุมนี้คือ ควรจะคิดว่าตนเองเป็นแขกผู้มาเยือนที่มีมารยาท ดังนั้นเมื่อมาที่นี่ก็ไม่ควรที่จะพูดพล่ามเกี่ยวกับปัญหาของประเทศไทยหรือสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยดูไม่ดี ซึ่งการกระทำอย่างนั้นโดยทั่วไปแล้ว ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้เป็นความคิดที่ดีแต่อย่างใดเลย