Integrity Legal - Law Firm in Bangkok | Bangkok Lawyer | Legal Services Thailand Back to
Integrity Legal

Legal Services & Resources 

Up to date legal information pertaining to Thai, American, & International Law.

Contact us: +66 2-266 3698

info@integrity-legal.com

ResourcesVisa & Immigration LawUS Immigration Lawการยื่นคำร้องวีซ่า CR-1 ด้วยตัวเองเป็นความคิดที่ดีหรือไม่?

การยื่นคำร้องวีซ่า CR-1 ด้วยตัวเองเป็นความคิดที่ดีหรือไม่?

Translation of the above video, for original transcript please see: CR1 visa Thailand.

วิดีโอเรื่องนี้จะกล่าวถึงการยื่นคำร้องวีซ่า CR-1 ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วยกับการที่ใครจะยื่นขอวีซ่าด้วยตัวเอง เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในกรณีขอวีซ่า CR-1ให้กับคู่สมรสชาวต่างชาติ แต่ประเด็นก็คือ  “การยื่นวีซ่าด้วยตัวเองเป็นความคิดที่ดีหรือไม่หลังจาก USCIS ได้ออกบันทึกช่วยจำด้านนโยบายเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนวิธีการพิจารณาคำร้องวีซ่าคู่สมรส?”

ผมกำลังกล่าวถึงบันทึกช่วยจำด้านนโยบายของ USCIS ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 11 กันยายน 2561 เกี่ยวกับการยกเลิกหลักการของความ “ไม่มีทางเป็นไปได้”   ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้อง สามารถปฏิเสธคำร้องได้ทันทีที่พบเห็นประเด็นความไม่เหมาะสมที่จะอนุมัติคำร้อง

ในอดีต เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้องขอวีซ่า จะปฏิเสธคำร้องได้เฉพาะในกรณีที่ วีซ่านั้น ไม่มีทางที่จะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ขอวีซ่า IR-1 หรือ CR-1 หรือขอสิทธิประโยชน์ของคู่สมรส แต่ขาดหลักฐานข้อมูลว่าได้สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นคำร้องฉบับนี้จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุมัติ   หรือในกรณีที่ยื่นขอวีซ่า IR-1 หรือ CR1 โดยไม่ได้แต่งงานกันจริง หรือในกรณียื่นคำร้องขอสิทธิประโยชน์จากวีซ่าคู่สมรสโดยที่ผู้ยื่นและผู้รับประโยชน์ไม่ได้เป็นคู่สมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ก็จะได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน สำหรับสถานการณ์ที่คลุมเครือว่าคู่นั้นได้แต่งงานกันจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่จะขอหลักฐานเพิ่มเติม เพราะตามหลักการของความ ”ไม่มีทางเป็นไปได้” นั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ยื่นคำร้องอาจหลงลืมแนบทะเบียนสมรสมาด้วย ดังนั้น หลักการของความ “ไม่มีทางเป็นไปได้”  จึงบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องออกเอกสารขอหลักฐานเพิ่มเติม(RFE)  ให้กับผู้ยื่นคำร้อง นอกจากจะเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าคู่สมรสนั้นไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

สิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวคือ “ธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว” และในเวลานี้ หากเอกสารไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่สามารถที่จะปฏิเสธคำร้องได้โดยไม่ต้องขอหลักฐานอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้ผู้ยื่นต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำร้อง

ดังนั้น หากจะยื่นคำร้องด้วยตนเองแล้ว  การตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดรอบคอบเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และอยากจะแนะนำว่าควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายใหม่และขั้นตอนต่างๆ เสียก่อน ผมไม่อยากเห็นผู้ยื่นคำร้องด้วยตนเองจะต้องได้รับการปฏิเสธหลังจากยื่นคำร้องและจ่ายเงินไปแล้ว เพียงเพราะการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของ USCIS ตามที่กล่าวแล้ว